มวยไทย เป็นการเล่นพื้นบ้านที่มีคุณสมบัติในการต่อสู้ป้องกันตัวด้วยการใช้อวัยวะที่สามารถใช้ทำร้ายคู่ต่อสู้ได้อย่างชาญฉลาดและมีศิลปะสูง เช่น หมัด ศอกแขน เท้า แข้ง และเข่าเป็นต้น ถือเป็นศิลปะประจำชาติ และเป็นลักษณะเด่นอย่างหนึ่งของคนไทย เพราะในประวัติศาสตร์ชาติไทยต้องเกิดศึกสงครามมาโดยตลอด ดังนั้นจึงต้องฝึกฝนให้เชี่ยวชาญเพื่อใช้ในการต่อสู้ มีการจัดตั้งโรงเรียนสอนมวยขึ้นเพื่อฝึกสอนในสมัยกรุงศรีอยุธยา มีคนดังทางด้านมวยไทย จนทุกวันนี้ได้ชื่อว่า นายขนมต้ม ผู้สามารถใช้วิชามวย เอาชนะข้าศึกได้เป็นจำนวนมาก
แม้แต่พระมหากษัตริย์ไทยบางพระองค์ในสมัยกรุงศรีอยุธยาก็ทรงโปรดปรานและทรงมีพระปรีชาสามารถ เช่น พระเจ้าเสือหรือ ขุนหลวงสรศักดิ์ ในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าฯทรงส่งเสริมให้แพร่หลายโดยจัดการแข่งขันชกมวยการกุศลขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2463 สำหรับสนามมวยไทยอื่น ๆ ในขณะนั้นก็มี เวทีสวนเจ้าเชตุและเวทีหลักเมือง เป็นต้น การชกด้วยกำปั้นเปล่า ต่อมาเมื่อมีการแข่งขัน ก็มีเชือกอยู่ในมือ และในระยะต่อมา จึงใช้สวมนวมแทนแบบมวยสากล จึงได้รับความนิยมมาอย่างยาวนาน
คุณลักษณะของ มวยไทย
มวยไทยใช้อวัยวะ 6 ประเภทในการต่อสู้คู่ต่อสู้ ได้แก่ หมัด ศอก แขนท่อนล่างเท้า แข้ง และเข่า เข้ากระทำกับคู่ต่อสู้ ด้วยการเข้าชก ต่อย เขก โขกทุบ เตะ ถีบ เหน็บ อัด ยัน เหยียบ เหวี่ยง ปัก ทิ่ม เฉือน กระทุ้ง สับ เสียบเฆี่ยน กด ทุ่ม ฟาด มัด รัด หักแขน หักขา หักคอ ฯลฯ อวัยวะแต่ละชนิดดังกล่าวมีวิธีใช้ดังนี้
- หมัดใช้ทิ่มกระแทก กระทุ้ง ซึ่งมีทั้งกระทุ้งขึ้นและกระทุ้งลง เหวี่ยง ซึ่งมีซึ่งเหวี่ยงสั้นและเหวี่ยงยาวเขก โขก และทุบ
- ศอกใช้เหวี่ยง ปัก งัด ทิ่ม เฉือน กด และกระทุ้ง
- แขนท่อนล่าง ใช้สับ เสียบ ปัด เหวี่ยง และเฆี่ยน
- เท้า ใช้ถีบ เหน็บ อัด คือการเตะด้วยปลายโต่ง ยัน เหยียบ เตะ และกระตุกเท้า
- แข้งใช้เหวี่ยงซึ่งมีทั้งเหวี่ยงสั้นและเหวี่ยงยาว
- เข่าใช้ยิงโยน ยัด เหวี่ยง กุด และกระตุก
ประเภทของมวยไทย
มวยไทยมีหลายประเภท แต่ถ้าแบ่งตามลักษณะการต่อสู้ รุก รับ และใช้หมัด เท้า เข่า ศอก พอจะแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภท คือ มวยหลัก หรือมวยแข็ง และมวยเกี้ยว หรือมวยอ่อน
1. มวยหลัก หรือมวยแข็ง หมายถึงนักมวยที่ชกอย่างรัดกุม สุขุม ตั้งกระบวนท่ามวย และทรงมวยมั่นคง ทั้งท่วงท่า การก้าวเท้า การก้าวเต็มไปด้วยความระมัดระวัง ดูเหมือนช้าไม่กระฉับกระเฉงนักมวยประเภทนี้จะตั้งรับและรอจังหวะเหมือนนักมวยที่ใจเย็น สามารถใช้มวยไทยที่หนักหน่วง รุนแรง และแม่นยำ ทั้งเท้า เข่า ศอก มีความทรหดอดทนและความพยายามสูง
2. มวยเกี้ยว หรือมวยอ่อน หมายถึง นักมวยที่มีชั้นเชิงแพรวพราวในการต่อสู้เพื่อโจมตีคู่ต่อสู้จะใช้กลอุบายมากมาย มักเคลื่อนไหวไม่อยู่นิ่ง โดยขยับไปมาซ้ายขวาสลับกันทำให้คู่ต่อสู้จับทางมวยได้ยาก มวยเกี้ยวจะคล่องแคล่วว่องไว ล่อลวงหลบการโจมตีได้ มีสายตาดี ออกหมัด เท้า เข่า ศอก ได้ไวกว่าตัวอื่น
นอกจากมวยหลักและมวยเกี้ยวแล้วมีมวยอีกประเภทหนึ่งที่ผสมผสานระหว่างมวยหลักและมวยหลักเข้าด้วยกัน คือ มีความคล่องตัวทั้งการใช้หมัดเท้าศอก ลักษณะของมวยก็มีเรียกเป็นอย่างอื่นตามความนิยมของครูมวยแต่ละท่าน เช่น มวยนอก มวยใน ซึ่งหมายถึงมวยที่ใครถนัด เช่น มวยวงนอกดี หมายถึงมวยที่เก่งอยู่ห่างออกอาวุธแข้งเตะผิวเผินหลอกล่อหาจังหวะเข้าทำแล้วหนีทันควัน ใช้ไม้ยาวหรืออาวุธยาวได้ดี มีความว่องไว เฉลียวฉลาด แต่พอเข้าวงในแล้วปล้ำ เข่ากับศอกมักจะไม่ได้ผล
กติกาการแข่งขันมวยไทยสมัยปัจจุบัน
กติกามวยไทยสมัยปัจจุบันจะถูกกำหนดไว้อย่างชัดเจนครอบคลุมทุก ๆ เรื่อง การแข่งขัน ในปัจจุบันนักมวยต้องสวมนวมขนาด 4 ออนซ์ นักมวยแต่งกายเป็นกางเกงขาสั้น สวมกระจับ สวมปลอกเท้าหรือไม่สวมก็ได้ ผูกผ้ายันต์ที่ต้นแขน เครื่องรางอื่น ๆ จะสวมเฉพาะตอนรำไหว้ครู และต้องถอดออกเมื่อเริ่มการแข่งขัน ในการแข่งขันมีผู้ตัดสินบนเวที 1 คน ข้างเวที 2 คน ในการแข่งขันมีผู้ตัดสินบนเวที 1 คน ข้างเวที 2 คน จำนวนยกในการแข่งขัน เป็น 5 ยก ยกละ 3 นาที พัก 2 นาที ระหว่างยก การแข่งขันจะแบ่งเป็นฝ่ายตามน้ำหนักตัวของนักมวยคล้ายกติกามวยสากล อวัยวะที่ใช้ในการต่อสู้คือ หมัด เท้า เข่า ศอก เข้าชก เตะ ถีบ ถอง เป็นต้น ส่วนไหนของร่างกายก็ได้ไม่จำกัดพื้นที่ชก ท่ามวยบางท่าอันตรายมาก ห้ามใช้เด็ดขาด เช่น หลักเพชร ซึ่งเป็นท่าจับขาแล้วหักด้วยการนั่งทับ เป็นต้น
การแต่งกายของผู้เข้าแข่งขัน
- ต้องสวมกางเกงขาสั้นครึ่งโคนขาให้เรียบร้อย ไม่สวมเสื้อและรองเท้า มุมแดง กางเกงขาสั้นสีแดง ชมพู แดงเลือดหมู หรือขาวแถบแดง กางเกงบ็อกเซอร์ มุมน้ำเงินใช้กางเกงขาสั้นสีน้ำเงิน ดำ ไม่คาดแถบแดง และต้องสวมเสื้อคลุมตามกฎกติกามวยโลก
- ต้องสวมกระจับที่ทำขึ้นจากวัสดุแข็งแรงทนทาน และได้รับการรับรองจากสภามวยไทยโลกเมื่อตีด้วยเข่าหรืออาวุธอื่น ๆ ในการต่อสู้ตรงบริเวณอวัยวะเพศ การผูกกระจับต้องผูกปมไว้ด้านหลัง และต้องมัดด้วยเงื่อนตาย มัดปลายเชือกที่เหลือให้เรียบร้อย
- อย่าไว้ผมยาวรุงรัง และห้ามไว้หนวดไว้เครา ต้องไม่เกินขอบริมฝีปาก หากเล็บเท้าต้องตัดให้สั้นและเรียบ
- ต้องสวมมงคลผ้าประเจียด หรือรัดเกล้า เฉพาะตอนไหว้ครูเท่านั้นก่อนการแข่งขัน อนุญาตให้ผูกเครื่องรางไว้ที่โคนแขนหรือเอวได้ แต่ต้องห่มผ้าให้มิดชิด เพื่อป้องกันอันตรายต่อคู่แข่งขัน
- อนุญาตให้ใช้ปลอกแขนข้อเท้าแพลง สวมข้อเท้าได้ข้างละไม่เกิน 1 อัน แต่ห้ามขยับปลอกหุ้มข้อขึ้นเพื่อสร้างเป็นสนับแข้งหรือม้วนลง และอย่าใช้ผ้าพันแผลที่ขาและข้อเท้า
- อย่าใช้เข็มขัดหรือสิ่งที่เป็นโลหะ สร้อยคอ ฯลฯ
- ห้ามใช้วาสลีน น้ำมันร้อน ขี้ผึ้ง หรือสมุนไพร สิ่งใดก็ตามที่ทำให้คู่แข่งเสียเปรียบหรือ หรือเป็นที่น่ารังเกียจทาบริเวณร่างกายหรือนวม
- ฟันยาง ผู้แข่งขันต้องใส่ฟันยาง
ประโยชน์ของมวยไทยในชีวิตประจำวันมีอะไรบ้าง
1. สำหรับการป้องกันตัว
เป็นหนึ่งในหลายเหตุผลที่คนเลือกเรียนมวยเพื่อเป็นทักษะในการป้องกันตัวขั้นพื้นฐาน เมื่อเจอภัยกับตัว เช่น การถีบ เป็นการเตะเพื่อผลักคู่ต่อสู้ออกไป เมื่อเผชิญหน้ากันหรือใช้ศอกและเข่าในระยะประชิดก็ได้ผลเช่นกัน แต่ทั้งนี้จะต้องได้รับการฝึกฝนจนชำนาญเป็นพิเศษเสียก่อน แม้ว่าการหลบหนีจะเป็นวิธีการป้องกันการปะทะที่ดีที่สุด แต่เมื่อหลีกเลี่ยงไม่ได้หรือมีคนต้องการความช่วยเหลือ เป็นหนึ่งในศิลปะการต่อสู้ที่ทรงพลังที่สุดที่สามารถปกป้องคนที่เรารักได้
2. สำหรับพัฒนาสุขภาพร่างกายให้ดีขึ้น
มวยไทยเป็นการออกกำลังกายที่ใช้กล้ามเนื้อเกือบทุกส่วนของร่างกาย เป็นการออกกำลังกายที่เผาผลาญแคลอรีและสร้างความแข็งแรงได้อย่างมีประสิทธิภาพ เผาผลาญพลังงานได้ประมาณ 600-700 แคลอรีต่อชั่วโมงมาตรฐานสำหรับแนวโน้มปกติคือ 2 ชั่วโมง ซึ่งหมายความว่าใน 1 ครั้งสามารถเผาผลาญได้ถึง 1,500 แคลอรี ยิ่งคุณควบคุมอาหารควบคู่ไปด้วยก็จะยิ่งมีพละกำลังมากขึ้น
3. สำหรับการจัดการความเครียด
จากหลาย ๆ ความคิดเห็นของผู้ที่เคยฝึกมวยไทย สิ่งหนึ่งที่พวกเขาพูดคือเป็นตัวช่วยในการจัดการความเครียดที่ดี นอกจากสารเอ็นโดรฟินที่ทำให้รู้สึกดีที่ท้าทายให้ผู้ก้าวข้ามขีดจำกัด ปลดปล่อยศักยภาพของตน มันทำให้คุณอยากเอาชนะ และสร้างความมั่นใจและวินัยทางจิตใจผ่านการควบคุมอารมณ์ ความปวดเมื่อยกล้ามเนื้อจากการฝึกซ้อมอย่างหนักจะทำให้คุณอยากเอาชนะ
นักกีฬามวยคนไทยคนแรกที่สร้างชื่อในเวทีโลก ‘พล พระประแดง’ เคยกล่าวไว้ว่า กีฬามวยไม่เสื่อมศีลธรรม เพราะนักกีฬามวยมุ่งมั่น สมัครใจ สมัครสมานสามัคคีเป็นหมู่คณะแพ้ไม่เสียใจ ชนะ ไม่เย่อหยิ่ง ไม่อาฆาต ไม่เย้ยหยันคู่ต่อสู้ มีวินัย ยอมรับคำตัดสินได้ดี ไม่เอาเปรียบคู่ต่อสู้ด้วยการซ้ำเติมเมื่อคู่ต่อสู้เข้าใจผิด ไม่เห็นแก่ตัว เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ผู้อื่น
ตัวอย่างจากข่าว แพรพลอย นักมวยหญิงที่เป็นไวรัล ภายนอกเธอเป็นเพียงผู้หญิงธรรมดา ๆ แต่เมื่อคนเมาเอาน้ำราดหัวเธอ เธอจึงแสดงทักษะมวยไทย มวยชั้นครู เพื่อป้องกันตัวเองและเพื่อน ๆ ซึ่งแม้จะโดนปรับทั้ง 2 ฝ่าย แต่ก็เห็นได้ว่าสามารถปกป้องตัวเธอและช่วยเหลือเพื่อนที่ถูกรุมทำร้ายได้ จนส่งผลให้หนุ่มเมาดังกล่าวต้องรับผิดชอบในผลแห่งการกระทำของตนเกินกว่าผลทางกฎหมาย เป็นอุทาหรณ์สำหรับใครก็ตามที่อยากข่มเหงทั้งทางวาจาและทางกายด้วยพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมต้องคำนึงถึงผลที่จะตามมาก่อนที่จะสายเกินไป